ในยุคผู้คนก้มหน้าก้มตาใช้สมาร์ทโฟนที่มีแอพพลิเคชั่นให้เลือกเล่นมากมาย
จนกลายเป็นภาพที่เกิดขึ้นเยอะมากในเมืองไทยขณะนี้ และเรียกกันว่า
"สังคมก้มหน้า" ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ที่สร้างรายได้
ไม่เฉพาะกับผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนและเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตต่างๆ แต่ยังเป็นช่องทางสร้างรายได้แบบใหม่ให้แก่
พนักงานนวด (Therapist) อีกด้วย
คุณผู้อ่าน...อ่านไม่ผิดแน่นอน
เพราะเป็นเรื่องจริงที่เพิ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 กับรูปแบบการนวดที่ตอบสนองกระแสสังคมนั่นคือ
การนวดแบบ ดิจิทัล ซินโดรม (Digital Syndrome Massage) ของร้านนวดเพื่อสุขภาพใจกลางเมืองหลวง
"ร่วมฤดี เฮลท์ มาสสาจจ์" ในซอยร่วมฤดี ถนนเพลินจิต
การนวดแบบ ดิจิทัล ซินโดรม
เป็นอย่างไร?...
...เชื่อว่าต้องมีคนตั้งคำถามนี้
เพราะส่วนใหญ่รู้จักการนวดไทยหรือนวดแผนโบราณ ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย
บางคนอาจวาดภาพไปว่า เป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีระบบดิจิทัลมานวด คำตอบคือไม่ใช่
แต่เป็นการนวดโดยใช้สองมือของมนุษย์นี่แหละ
ดิจิทัล ซินโดรม
มีที่มาและแตกต่างจากการนวดแบบอื่นๆ อย่างไรนั้น "บัว" วรอนงค์
เลิศไพรวัน สาวเมืองกรุงวัย 36 ปี กรรมการผู้จัดการ ร่วมฤดี
เฮลท์ มาสสาจจ์ พร้อมตอบคำถาม โดย วรอนงค์ จบคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโท ด้านการบริหารงานภาครัฐ ไอโอวาสเตท
ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้าเคยทำงานที่อื่น และตัดสินใจเข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัว
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
วรอนงค์ เล่าว่า ร่วมฤดี เฮลท์
มาสสาจจ์ เปิดมาได้ 15 ปีแล้ว ก่อตั้งโดยคุณพ่อของเธอ วรชัย
เลิศไพรวัน ซึ่งเล่นกอล์ฟเป็นประจำ ทำให้มีอาการปวดเมื่อย
จึงนำประสบการณ์ส่วนตัวมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการนวดให้ตรงกับจุดที่ลูกค้ามีอาการ
โดยเฉพาะคนเล่นกอล์ฟ ที่ต้องเดินหลายกิโลเมตรกว่าจะครบทุกหลุม
รวมถึงใช้พลังแขนวาดวงสวิง
และไม่นับรวมความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ตัวเธอเองนั้น
เมื่อรู้สึกปวดเมื่อยจากการเล่นกีฬา เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน ก็จะแวะมาใช้บริการเช่นกัน
ซึ่งเริ่มจากนวดเท้า ก่อนติดใจไปถึงนวดไทย และทุกรูปแบบ
"สำหรับโปรเจกท์นี้เกิดจากการที่บัวชอบเล่นสมาร์ทโฟนเหมือนคนทั่วไป
ซึ่งปัจจุบันนิยมเล่นไลน์จากมือถือกันมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไลน์กันตลอด
กลายเป็นสังคมก้มหน้ากันไปหมด แน่นอนว่าจะต้องมีอาการปวดเมื่อย บางครั้งก็ปวดนิ้ว
ปวดแขนและรู้สึกตึง ซึ่งเกิดจากการก้มหน้าเยอะๆ บัวก็เลยมาให้พี่ๆ ที่ร้านนวด
แล้วก็คุยกันว่าไม่ใช่เราคนเดียวนะที่เป็น จึงช่วยกันคิดว่าจะนวดตรงจุดไหนให้คลาย
โดยประยุกต์มาจากนวดไทย ทางเราเรียกการนวดแบบนี้ว่า ดิจิทัล ซินโดรม
จะพูดว่าเป็นหลักสูตรย่อส่วนจากนวดแผนไทยชุดเต็มเพื่อคนรุ่นใหม่ก็ได้นะคะ"
หากจะคิดว่า การนวดในลักษณะนี้
พนักงานนวดร้านอื่นก็น่าจะทำได้ ก็คิดไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะ ร่วมฤดี
เฮลท์ มาสสาจจ์ ยืนยันถึงความแตกต่างที่มี ซึ่งเกิดจากแนวคิดในการบริหารงาน
ที่ต้องมีการคิดค้นเทคนิคพิเศษ หาความแปลกใหม่ และก้าวถึงความทันสมัยอยู่เสมอของ
วรอนงค์ ในการนำพาธุรกิจการนวดของครอบครัวให้ดำเนินต่อไปได้อย่างสวยงาม
"ทางร้านได้ส่งพนักงานไปรับการอบรมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะเป็นเวลา
3 เดือน โดยการนวดแบบดิจิทัล ซินโดรม ใช้เวลา 1 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง 30 นาที
จะเน้นจุดได้นานกว่า พนักงานจะนวดกดจุดฝ่าเท้ากระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เน้นมือ
ไหล่ หลัง หัว และนวดขมับศีรษะ
จะนวดดูอาการด้วยว่าเป็นมากแค่ไหนและต้องการให้นวดบรรเทาส่วนใดเป็นพิเศษ
นอกจากนี้เราได้ใช้ครีมในการนวดด้วย จะทำให้กดเข้าถึงเส้นได้มากกว่า
สิ่งที่แตกต่างจากร้านนวดอื่นๆ
คือ ตัวประคบสมุนไพร ส่วนมากที่อื่นจะเป็นประคบเปียก ใช้สมุนไพรเปียก
คือการนำสมุนไพรไปนึ่งเพื่อให้เกิดความร้อนแล้วเอามาประคบ จะมีน้ำสมุนไพรไหลออกมา
ส่วนทางร้านเราเป็นประคบแห้ง ใช้สมุนไพรสด
ใช้หม้อดินอบเกลือแล้วตั้งไฟให้เกิดความร้อน แล้วหั่นสมุนไพรสดห่อเป็นลูกประคบ
ซึ่งการประคบสองแบบนี้จะใช้สมุนไพรตัวเดียวกัน"
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน
ซึ่งดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.ruamrudeehealthmassage.com และโทรถามได้ที่ 0-2252-9651 ปรากฏว่าได้รับความสนใจดี
เพราะยังไม่มีใครคิดทำการนวดแบบ ดิจิทัล ซินโดรม มาก่อน หากจะกล่าวว่า ร่วมฤดี
เฮลล์ มาสสาจจ์ เป็นเจ้าแรกที่ทำในประเทศไทยก็คงไม่ผิด
เช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจากการนวดแบบ คอมพิวเตอร์ ซินโดรม (Computer
Syndrome Massage) เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
มีลูกค้า ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือวัยทำงาน ทั้งไทยและต่างชาติ เข้ามานวดประจำ
บางคนมาถึงวันละ 2 รอบเลยทีเดียว โดยร้านเปิดให้บริการทุกวัน
เวลา 10.00-24.00 น.
ในส่วน คอมพิวเตอร์ ซินโดรม นั้น
วรอนงค์ ขยายความว่า ทุกวันนี้คนก็ยังใช้คอมพิวเตอร์เยอะมาก
โดยการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การนั่งผิดท่า นั่งไขว่ห้าง
รวมถึงการวางมือ แขน ขาผิดตำแหน่ง การนั่งงอตัว หรือยืดตัวตลอดเวลา
การจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีเวลาผ่อนคลาย ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนเครียด
เกร็ง ปวด ล้า ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทางร้านมีบริการนวดบำบัดแบบ 45
นาที และ 90 นาที
"ร้านนวดในกรุงเทพฯ มีเยอะ
แต่จุดเด่นของร้านเราคือ สถานที่ตั้งที่อยู่กลางเมือง ความสะอาด แม้ตกแต่งไม่หรูหรา
แต่ดูสบายตา มีพนักงานนวดมืออาชีพถึง 30 คน
มีการนวดหลายโปรแกรมให้เลือก อาทิ นวดไทย นวดเท้า นวดอโรม่า นวดหม้อเกลือ
บอดี้สครับ เฟเชียลทรีตเม้นท์ เป็นต้น และที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด
เคยมีลูกค้าบอกว่าอยากนวดกับพนักงานสวยๆ (หัวเราะ) แต่ที่ร้านเราไม่มีค่ะ
มีแต่คนนวดมีฝีมือ พนักงานจะอยู่กับเรานานมาก บางคนอยู่มา 10 กว่าปี ฉะนั้นจึงมีความชำนาญ
สำหรับจุดเด่นที่สุดในตอนนี้ที่ยังไม่มีใครทำคือ
การนวดดิจิทัล ซินโดรม รวมถึงที่ทำไปแล้วคือ คอมพิวเตอร์ ซินโดรม
เพราะตอนนี้โลกออนไลน์กำลังมาแรง อุปนิสัยการใช้ชีวิตของเราก็เปลี่ยน
โดยมองว่าสมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 หรือเปรียบเปรยเป็นอวัยวะที่
33 ของมนุษย์ไปแล้ว
ซึ่งอันนี้แหละที่มันเข้าเทรนด์และเราก็ทำงานแบบตามเทรนด์อยู่เสมอ"
วรอนงค์
เปิดเผยถึงจุดเด่นของร้านที่มีมาตั้งแต่ต้น และพยายามสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอ
จนกลายเป็นร้านนวดร้านเล็กๆ ที่เยอะไปด้วยจำนวนลูกค้า
และสิ่งสำคัญในการบริหารอีกเรื่องคือ การคงไว้ซึ่งคุณภาพในการนวด
ทางร้านจะไม่ให้พนักงานรับลูกค้าเกินพละกำลัง พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่า
การนวดของร้านคือการผ่อนคลาย คลายเครียด คลายความอ่อนล้าจากกิจกรรมต่างๆ
เป็นการนวดเพื่อบรรเทาอาการ ไม่ใช่นวดเพื่อรักษา
"แนวคิดในการบริหารส่วนตัวของบัวนั้น
ไม่มีอะไรมาก ร้านเราเปิดมานาน เรามีลูกค้าประจำเยอะ
ฉะนั้นจะต้องรักษาฝีมือการนวดของพนักงานที่มีคุณภาพเอาไว้
โดยมีระดับอาจารย์คอยตรวจเช็กอยู่เสมอ มีพนักงานใหม่เข้ามาก็จะต้องผ่านการอบรมก่อน
นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้า เช่น ช่วงนี้จะได้รับส่วนลดถึง 30
เปอร์เซ็นต์ ช่วงเวลา 10.00-14.00 น.
ขอยืนยันว่า ราคาน่าใช้บริการค่ะ"
นั่นคือคำพูดส่งท้ายการสนทนาของ
"บัว" วรอนงค์ เลิศไพรวัน ผู้บริหารสาว ดีกรีปริญญาโทจากแดนอเมริกัน ของ
ร่วมฤดี เฮลท์ มาสสาจจ์ ที่ใช้แนวทางในการบริหารร้านนวดธรรมดาๆ
แต่กลับไม่ธรรมดาสำหรับคนอินเทรนด์
ในส่วนของผู้เขียนนั้น
ยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน "สังคมก้มหน้า" จึงได้ทดลองนวด ดิจิทัล ซินโดรม
ส่วนผลเป็นอย่างไร บอกไม่ได้ ประเดี๋ยวจะเข้าข่ายโฆษณา บอกได้แค่ว่า
"ลองสิคะ"
แนะนำ
หลังจากมานวดแล้ว "ร่วมฤดี
เฮลท์ มาสสาจ์จ" มีคำแนะนำดีๆ ให้ลูกค้ากลับไปด้วยเสมอ อย่างในการนวดแบบ
"ดิจิทัล ซินโดรม" นั้น
จะแนะนำให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนเรื่องอิริยาบถในการนั่ง เช่น
นั่งที่โต๊ะทำงานก็ไม่ควรนั่งนานเกิน 2 ชั่วโมง ควรมีการเปลี่ยนท่า
ลุกเดิน หรือยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อในขณะนั่ง
ในส่วน "คอมพิวเตอร์
ซินโดรม" เมื่อรู้ว่าเกิดอาการเจ็บปวดจากการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์
ก็ให้หยุดพักการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะๆ ด้วยการลุกเดิน หรือมองไกลไปนอกหน้าต่าง,
นั่งตัวตรงวางเท้าราบกับพื้น วางแขนและมือให้พอดี
ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ตรงกับระดับสายตา, วางเมาส์
ในระนาบเดียวกับคอมพิวเตอร์ ในตำแหน่งที่วางในการขยับแขนและข้อมือสะดวก, ออกกำลังกาย ขยับกล้ามเนื้อ อวัยวะที่รู้สึกปวดเมื่อย
เพื่อนำออกซิเจนเข้าไปในกล้ามเนื้อ และการประคบร้อน และนวดคลึง (ด้วยยา)
จะบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
--------------------
(คมคิด ธุรกิจนิวเจน : นวด 'ดิจิทัล ซินโดรม' คลายปม 'สังคมก้มหน้า' : เรื่อง...ปทุม
กลิ่นหอม / ภาพ...ฐานิส สุดโต)
อ้างอิง : http://www.komchadluek.net/detail/20150602/207258.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น